เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมข่าวเศรษฐทีมักพูดว่า “ดอลลาร์แข็งค่า” แล้วคนถึงแตกตื่นกันใหญ่ ทั้งนักลงทุน พ่อค้า แม่ค้า หรือแม้แต่คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ก็ยังโดนผลกระทบได้ วันนี้เรามาเจาะลึกกันแบบภาษาคนทั่วไปว่า “ดอลลาร์แข็ง” มันคืออะไร ใครได้ ใครเสีย และเราควรปรับตัวยังไงในช่วงค่าเงินผันผวนแบบนี้
ดอลลาร์แข็งคืออะไร?
พูดง่าย ๆ เลย “ดอลลาร์แข็ง” หมายถึง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น บาท ยูโร เยน หรือหยวน สมมติเมื่อก่อน 1 ดอลลาร์แลกได้ 33 บาท แต่ตอนนี้ต้องใช้ 38 บาทถึงจะแลกได้ 1 ดอลลาร์ แบบนี้แหละเรียกว่า “ดอลลาร์แข็งขึ้น”
ส่วน “ดอลลาร์อ่อน” ก็ตรงข้ามเลย คือ มูลค่าดอลลาร์ลดลง ต้องใช้เงินน้อยลงเพื่อแลก 1 ดอลลาร์ เช่น จาก 38 บาท เหลือ 33 บาท แบบนี้คือดอลลาร์อ่อน
สาเหตุที่ทำให้ดอลลาร์แข็งมีหลายอย่าง เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ขึ้นดอกเบี้ย เงินทุนไหลเข้าประเทศ นักลงทุนแห่ถือดอลลาร์ หรือเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น ๆ ก็มีผลหมด
ทำไมดอลลาร์แข็งถึงสำคัญกับทั่วโลก?
เพราะดอลลาร์คือ “เงินกลางโลก” ใช้ซื้อขายกันในตลาดโลกแทบทุกอย่าง ทั้งน้ำมัน ทองคำ หรือแม้แต่ค่าเรือขนส่ง ดังนั้นถ้าดอลลาร์แข็ง มันไม่ได้แค่กระทบอเมริกา แต่มันสะเทือนถึงทุกประเทศบนโลก
ลองนึกภาพเวลานำเข้าของจากต่างประเทศ ถ้าเงินบาทอ่อนลงเพราะดอลลาร์แข็ง ของนำเข้าทุกอย่างก็จะแพงขึ้น เช่น โทรศัพท์จากอเมริกา หรือวัตถุดิบจากต่างประเทศ ราคาก็พุ่งตามค่าเงินไปเลย
ใคร “ได้ประโยชน์” จากดอลลาร์แข็ง?
- ผู้ส่งออก (Exporters)
คนที่ส่งของไปขายต่างประเทศจะยิ้มเลย เพราะเมื่อดอลลาร์แข็ง ค่าเงินบาทก็อ่อนตาม ทำให้ของไทยดู “ถูกลง” สำหรับลูกค้าต่างชาติ เช่น ก่อนหน้านี้ขายสินค้า 1 ดอลลาร์ ได้ 33 บาท แต่ตอนนี้ได้ถึง 38 บาท รายได้ในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นทันที
ธุรกิจอย่างอาหารแช่แข็ง สิ่งทอ ยางพารา หรือสินค้าเกษตร จะได้อานิสงส์เต็ม ๆ เพราะขายต่างประเทศเยอะ ได้เงินดอลลาร์เยอะ - คนที่ถือสินทรัพย์สกุลดอลลาร์
ถ้าใครลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ หรือมีบัญชีเงินฝากดอลลาร์ พอค่าเงินแข็ง ก็ได้กำไรเพิ่มโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเวลาแลกกลับเป็นบาท มูลค่าก็สูงขึ้น - นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย
ดอลลาร์แข็งทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ “ของถูก” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น เดิมแลก 1,000 ดอลลาร์ได้ 33,000 บาท ตอนนี้ได้ 38,000 บาท เขาก็เที่ยว ช้อป กินอยู่สบายขึ้น
แล้วใคร “เจ็บตัว” เมื่อดอลลาร์แข็ง?
- ผู้นำเข้า (Importers)
พวกบริษัทที่ต้องซื้อของจากต่างประเทศเจ็บสุด เช่น โรงงานที่ต้องสั่งวัตถุดิบ หรือร้านที่ขายสินค้านำเข้า เพราะเมื่อดอลลาร์แข็ง ต้นทุนจะพุ่งขึ้นทันที สุดท้ายราคาสินค้าก็ต้องขึ้นตาม
คนที่นำเข้าของใช้ เช่น เครื่องจักร โทรศัพท์ รถยนต์ หรือแม้แต่น้ำหอม ก็จะเห็นราคาสินค้าขึ้นแบบชัด ๆ - นักท่องเที่ยวไทยที่ไปต่างประเทศ
คนที่เตรียมไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือยุโรปนี่น้ำตาซึมเลย เพราะค่าเงินดอลลาร์แข็งทำให้เงินบาทอ่อน เวลาจะแลกเงิน ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นมาก เช่น ก่อนหน้านี้แลก 100 ดอลลาร์ใช้แค่ 3,300 บาท แต่ตอนนี้ต้องใช้ 3,800 บาทแทน - ประเทศที่มีหนี้ต่างประเทศเยอะ
ถ้ารัฐบาลหรือเอกชนมีหนี้ที่ต้องชำระเป็นดอลลาร์ เมื่อดอลลาร์แข็ง หนี้ในรูปเงินบาทก็พุ่งขึ้นทันที เช่น เดิมเป็นหนี้ 1 ล้านดอลลาร์ ตอนค่าเงิน 33 บาทต่อดอลลาร์ หนี้อยู่ที่ 33 ล้านบาท แต่พอดอลลาร์แข็งเป็น 38 บาท หนี้ก็เพิ่มเป็น 38 ล้านบาททันทีโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!
แล้วทำไมบางคนบอกว่าดอลลาร์แข็ง “ดี” สำหรับเศรษฐกิจ?
จริง ๆ ดอลลาร์แข็งไม่ได้มีแต่ด้านลบ เพราะมันสะท้อนว่าเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแรง นักลงทุนมั่นใจ ถือเป็นสัญญาณว่าตลาดการเงินโลกมีศูนย์กลางที่มั่นคง
อีกอย่างคือ ดอลลาร์แข็งช่วยลดอัตราเงินเฟ้อในอเมริกา เพราะของนำเข้าจะถูกลงเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศอื่น ช่วยให้ราคาสินค้าในประเทศไม่พุ่งเร็วเกินไป
แล้วทำไมบางคนบอกว่าดอลลาร์แข็ง “แย่”?
เพราะมันทำให้ประเทศอื่น ๆ เดือดร้อน! ดอลลาร์แข็ง = เงินประเทศอื่นอ่อนลง ส่งผลให้ของนำเข้าทุกอย่างแพงขึ้น คนต้องจ่ายแพงขึ้นทั้ง ๆ ที่รายได้เท่าเดิม
ยิ่งประเทศไหนพึ่งพานำเข้ามาก เช่น พลังงาน อาหาร หรือเทคโนโลยี จะเจ็บหนัก เพราะต้นทุนทั้งหมดขยับขึ้นทันที
สำหรับไทยเอง ดอลลาร์แข็งก็ทำให้ราคาน้ำมันนำเข้าขึ้นด้วย ซึ่งพอพลังงานแพง ทุกอย่างก็แพงตามตั้งแต่ขนส่งยันอาหารเลย
นักลงทุนควรทำยังไงเมื่อดอลลาร์แข็ง?
ถ้าใครลงทุนในตลาดหุ้นหรือคริปโต ช่วงดอลลาร์แข็งมักเห็นตลาดทั่วโลก “ชะลอ” เพราะนักลงทุนจะหนีเข้าดอลลาร์ที่ปลอดภัยกว่า
แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นช่วงแย่เสมอไป ถ้ารู้จักปรับพอร์ต เช่น
- ถือเงินสดบางส่วนเป็นดอลลาร์
- ลงทุนในหุ้นส่งออก
- หรือซื้อทอง (เพราะทองมักปรับตามค่าเงิน)
ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะเลย
แล้วคนทั่วไปอย่างเราควรทำยังไง?
จริง ๆ เราควบคุมค่าเงินไม่ได้ แต่ “บริหารผลกระทบ” ได้ เช่น
- ถ้าคิดจะไปเที่ยวต่างประเทศ อาจแลกเงินไว้ล่วงหน้า ตอนค่าเงินยังไม่พุ่ง
- ถ้าคิดจะซื้อของนำเข้า ควรเช็กแนวโน้มค่าเงินก่อนสั่งของ
- ถ้ามีหนี้ดอลลาร์ ก็ควรรีบจ่ายบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยงค่าเงิน
ส่วนใครอยากลงทุนก็เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ “ได้ประโยชน์” จากดอลลาร์แข็ง เช่น หุ้นส่งออก หรือกองทุนต่างประเทศที่ถือสินทรัพย์ดอลลาร์ไว้เยอะ ๆ
สรุป ดอลลาร์แข็ง ดีหรือแย่กันแน่?
คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับมุมมอง”
- ถ้าคุณเป็นนักส่งออก นักลงทุนต่างประเทศ หรือถือสินทรัพย์ดอลลาร์ → ดีมาก ได้กำไรเพิ่ม
- แต่ถ้าคุณเป็นผู้นำเข้า นักท่องเที่ยว หรือคนที่ต้องใช้เงินสกุลอื่น → เจ็บหนักแน่นอน
เพราะฉะนั้น ดอลลาร์แข็งไม่ใช่เรื่องดีหรือแย่ไปหมด แต่คือ “สัญญาณทางเศรษฐกิจ” ที่บอกให้เรารู้ว่าโลกกำลังขยับยังไง และเราควรขยับตามยังไงให้ฉลาดกว่าเดิม
ช่วงนี้โลกการเงินผันผวน ค่า ดอลลาร์แข็ง ก็มีผลกับการใช้ชีวิตและการลงทุนของเราไม่แพ้กัน แต่ถ้าอยากหาทาง “หมุนเงินให้ไว กำไรเห็นทุกวัน” แบบไม่ต้องรอเศรษฐกิจดีขึ้น ลองเปิดใจให้กับการเสี่ยงโชคออนไลน์ดูบ้างก็ได้
โดยเฉพาะกับเว็บ Global Lotto เว็บหวยออนไลน์เจ้าใหญ่ จ่ายจริงทุกบิล อัตราจ่ายสูงสุดในไทย เล่นได้ทั้งหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย และ “หวยไว 1 นาที” ที่รู้ผลเร็วเหมาะกับสายลงทุนมือไวใจถึง! ระบบใช้งานง่าย ปลอดภัย มีทีมงานดูแล 24 ชั่วโมง ใครอยากเปลี่ยนจังหวะเศรษฐกิจให้กลายเป็นจังหวะรวย ลองคลิกเข้าไปเล่นที่ Global Lotto ได้เลย
No responses yet